ทำอย่างไรให้เรื่องของ ‘สิว’ เป็นเรื่องสิวๆ 🩺
สิว (Acne) 🤦 เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย รวมไปถึงพันธุกรรม ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันชนิดต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยาบางชนิด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, ความเครียด, การทานอาหารบางชนิด และการดูแลผิวอย่างไม่ถูกวิธีล้วนกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ การเกิดสิวพบมากในช่วงวัยรุ่นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยทั่วไปสิวมักจะหายไปหรือทุเลาลงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นค่ะ
สาเหตุหลักๆของการเกิดสิว
มาจากการอักเสบภายในผิว ที่ทำปฏิกิริยาร่วมกับต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากเกินไปและชั้นผิวที่หนาขึ้น อุดตันไขมัน ให้สะสมอยู่ภายในรูขุมขน และก่อให้เกิดเป็นสิวประเภทต่างๆ ซึ่งหากไขมันที่อุดตัน และสะสมอยู่ภายใน รูขุมขนไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็จะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้กับแบคทีเรีย
1. เกิดจากฮอร์โมน สิว สามารถเกิดกับคนได้ทุกเพศทุกวัย ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนเพศ ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศมากเกินไป จะทำให้ร่างกายหลั่งไขมันมากผิดปกติ ต่อมไขมันก็เกิดการอุดตันของท่อไขมันและขุมขน ทำให้ท่อและต่อมไขมันบวมโตขึ้นเกิดเป็นหัว come-done ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิว
2. เกิดจากการอักเสบ เป็นการอักเสบของระบบต่อมไขมัน (sebaceous) ในรูขุมขน ปกติไขมันที่สร้างจากต่อมไขมันจะออกมาตามเส้นขน หากมีการอุดตันของท่อทางเดินไขมันก็จะทำให้เกิดสิว ซึ่งในทางการแพทย์พบว่า สิวมีหลายชนิดที่พบบ่อยๆ ได้แก่ สิวที่มีการอักเสบเป็นหนอง เรียกว่าสิวอักเสบ นอกจากนี้ก็ยังพบสิวธรรมดาที่ไม่มีการอักเสบหรือที่เรียกว่า สิวหัวดำ
3. เกิดจากระคายเคือง หลายคนมีผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย แต่กลับปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลผิวของตัวเองเท่าที่ควร ก็ทำให้เกิดอาการระคายเคือง และเป็นสิวได้ง่าย เช่น ไว้ทรงผมหน้าม้า บางคนก็มักจะเป็นสิวขึ้นตามหน้าผากได้ง่าย หรือใครที่แพ้น้ำยาซักผ้าบางชนิดที่ใช้กับผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม เวลานอนก็ระคายเคืองต่อผิวหน้าและทำให้เป็นสิวได้
4. เกิดจากสารสเตียรอยด์ อีกหนึ่งสาเหตุหลักของสาวๆ ที่อยากมีหน้าขาวใส แต่หลงเชื่อคำโฆษณาในเครื่องสำอางที่อันตราย มีสารสเตียรอยด์ แต่พอยิ่งใช้ก็ยิ่งทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง และเป็นสิวผดผื่นแพ้ตามมา ซึ่งสิวประเภทนี้รักษาให้หายยากเสียด้วย
5. เกิดจากความเครียด เมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด คือ คอร์ติซอล (cortisol) ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น จึงทำให้เกิดอาการผิวมัน เป็นสิว และโรคผิวหนังอื่นๆ ได้นั่นเอง
วิธีการป้องกันการเกิดสิว?
- ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด เพื่อลดการอุดตันบนใบหน้า
- รับประทานอาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือไขมันสูง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดสภาวะขาดน้ำจะทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ มีโอกาสสิวเห่อน้อยกว่าคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากความเครียด เช่น การออกกำลังกาย, นั่งสมาธิ, ปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
- หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เพราะการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ จะทำให้เกิดการเสียดสี ระคายเคือง
สิวมีวิธีการรักษาอย่างไร?
- ยาทาเฉพาะที่ หรือยารักษาสิวชนิดใช้ภายนอก
เช่น ยาปฏิชีวนะชนิดทา , ยาทาเรตินอยด์ , กรดอะเซลาอิก หรือซัลเฟอร์
มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และลดการผลิตน้ำมัน - ยารักษาสิวชนิดรับประทาน
เช่น ยาปฏิชีวนะ , ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน , เรตินอยด์
มีคุณสมบัติช่วยชะลอ หรือหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบ ปรับสมดุลฮอร์โมน ป้องกันการเกิดสิวใหม่ และช่วยลดเลือนแผลเป็นจากสิว - การรักษาสิวด้วยการบำบัด
การบำบัดด้วยแสง (Light therapy) เป็นการฉายแสง LED ความเข้มสูงช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peeling) เป็นการบำบัดด้วยสารเคมีเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกเพื่อสร้างเซลล์
ผิวใหม่
การกดสิว (Comedone extraction) รักษาสิวโดยการกดสิวทั้งสิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวซีสต์ที่รักษาไม่หายด้วยการยาทาเฉพาะที่
ยาฉีดสเตียรอยด์ (Steroid injection) ฉีดสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบชนิดรุนแรง โดยฉีดตรงไปที่ผิวหนังบริเวณสิวอักเสบเพื่อช่วยให้สิวยุบตัวเร็วและลดความเจ็บปวด
**ทั้งนี้ แพทย์ผิวหนังจะเป็นผู้พิจารณาทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงผลการตรวจวินิจฉัยสภาพผิวโดยละเอียด
ข้อปฏิบัติตัวเบื้องต้นเมื่อสิวขึ้น
👉 ดูแลรักษาความสะอาดของผิวพรรณอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงฝุ่นควันและล้างหน้าให้สะอาด
👉 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิด Oil-free , Alcohol-free และเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว
👉 หลีกเลี่ยงการเช็ดถูหรือการนวดหน้าที่รุนแรงเกินไป ห้ามบีบหรือแกะสิวโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สิวอักเสบลุกลามมากขึ้นได้
👉 รักษาความสะอาดของเครื่องนอน เป็นสิ่งที่จะต้องสัมผัสกับผิวหน้าของเราโดยตรง จะช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวบนหน้าได้
👉 หากสิวมีอาการรุนแรงมากขึ้น หรือรักษาด้วยตนเองแล้วการอักเสบของสิวยังไม่ทุเลาลง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจรักษาได้ โดยกระบวนการรักษาขึ้นอยู่กับประเภทของสิว อาการและระดับความรุนแรงของการอักเสบ ประกอบด้วยการรับประทานยา การทายา การฉีดยา และการบำบัดด้วยวิธีต่าง ๆ สิวแต่ละประเภทจะรักษาไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรได้รับการแนะนำจากแพทย์โดยตรงค่ะ ^^
🍅 ทริคเล็กๆในการรักษาสิวแบบธรรมชาติ 🍅
สำหรับสิวระยะเริ่มแรก ก่อนที่เราจะไปพึ่งยา สารเคมี หรือไปหาหมอรักษา “สิว” ลองใช้วิธีแบบธรรมชาติจากสมุนไพร หรือของใกล้ๆ ตัว ก็อาจจะช่วยให้ “สิว” หายได้ค่ะ ของใกล้ตัวที่เราจะหยิบมาใช้สำหรับพอกหน้าได้ เช่น ดินสอพอง น้ำผึ้ง ไข่ขาว มะละกอ มะเขือเทศ หอมแดง มะนาว และแตงกวา ค่ะ นอกจากรักษาสิวแล้วยังช่วยให้หน้าสว่างใสขึ้นด้วยนะคะ อย่างสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ🥤เพราะการดื่มน้ำสะอาดที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้หน้าใส สิวหาย และผิวพรรณดีขึ้นได้ค่ะ
เรื่องของ ‘สิว’ รอช้าไม่ได้ค่ะ หากมองหาคลีนิกรักษาสิว มองหา KNP Clinic สิคะ
💻 สอบถามเพิ่มเติม หรือจองโปรโมชั่นได้ที่ 👈
📲 Line@ : @knpclinic หรือคลิ๊ก http://bit.ly/2NiBJXV
☎️ โทร 02 587 0237 , 065 636 4796
👉 IG : knpclinic
www.knpclinic.com
🗓 คลินิกเปิดให้บริการวัน อังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์)
🕐 เวลา 13.00 – 21.00 น. 🕘
💳 ยินดีรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร 💰